“งาขี้ม่อน” เมล็ดเล็กจิ๋ว คุณภาพคับแก้ว
7
ก.ค.
ก.ค.
2016-07-07 13:26:05
3228
แอดมิน

หากใครที่เป็นชาวเหนือ คงจะรู้จัก “งาขี้ม่อน” กันเป็นอย่างดี แต่สำหรับคนที่ไม่เคยรู้จัก หรือไม่เคยได้ยินชื่อ “108 เคล็ดกิน” มีของดีเม็ดเล็กๆ จะมากระซิบบอกกัน
เพราะ “งาขี้ม่อน” หรือ “งาม้อน” มีสรรพคุณทางยามากมาย แต่ก่อนอื่นนั้น เราไปเริ่มต้นทำความรู้จักเจ้างาขี้ม่อนกันก่อน
“งาขี้ม่อน” หรือ “งาม้อน” เป็นพืชจำพวกเดียวกับกะเพรา โหระพา ใบแมงลัก พบว่าปลูกอยู่ทางภาคเหนือของประเทศไทยมานานแล้ว เมล็ดของงาขี้ม่อนจะมีขนาดเล็กๆ กลมๆ ขนาดใกล้เคียงกับเมล็ดงา คนภาคเหนือจะนำไปแปรรูปได้หลายอย่าง อาทิ ทำเป็นงาขี้ม่อนแผ่น (คล้ายๆ กับถั่วตัด) นำไปคั่ว นำไปคลุกกับข้าวเหนียว หรือผสมกับข้าวหลามเป็นข้าวหลามงาขี้ม่อน แล้วก็ยังมีการนำมาทำเป็นชางาขี้ม่อน หรือในช่วงหลังๆ มีการดัดแปลงนำมาทำเป็นคุกกี้งาขี้ม่อน ทำให้สามารถหากินได้ง่ายมากขึ้น
“งาขี้ม่อน” มีกรดไขมันอิ่มตัวสูง มีฟอสฟอรัสและแคลเซียมสูง อุดมไปด้วยวิตามินบี และมีสารเซซามอล ที่เชื่อกันว่ามีส่วนช่วยป้องกันโรคมะเร็งและทำให้ร่างกายแก่ช้าลง

สรรพคุณของงาขี้ม่อน หากกินเมล็ดจะช่วยชูกำลัง ทำให้ร่างกายอบอุ่น แก้ท้องผูก ลดไขมันในเลือด ส่วนฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาช่วยต้านแบคทีเรีย ต้านเชื้อรา เป็นยาระบาย ลดบวม ลดอุณหภูมิร่างกาย ลดระดับคอเลสเตอรอล ลดไตรกลีเซอไรด์ นอกจากนี้ยังมีผลการวิจัยออกมาล่าสุด พบว่า ในน้ำมันงาขี้ม่อน มีทั้งโอเมก้า 3 และโอเมก้า 6 ซึ่งเป็นกรดไขมันที่จำเป็นต่อร่างกาย
จากรายงานระบุผลวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการพบว่าน้ำมันงาม้อนมีโอเมก้า 3 ถึงร้อยละ 56 และเป็นโอเมก้า 6 ร้อยละ 23 เมื่อพูดถึงโอเมก้า 3 หลายคนคงนึกถึงน้ำมันปลา (fish oil) ซึ่งสกัดมาจากปลาทะเลน้ำลึก ที่มีสรรพคุณบำรุงสมอง แต่ยอดดอยก็ยังมีพืชที่วิเศษที่เป็นแหล่งโอเมก้า 3 บริโภคแทนปลาจากทะเลน้ำลึก อย่างเมล็ดงาม้อนที่เป็นแหล่งของกรดไขมันจำเป็น โอเมก้า 3
สารสกัดจากเมล็ดงาม้อนเป็นแหล่งของกรดไขมันจำเป็นคือ โอเมก้า 3 จากเวปไซด์ pantip.com ระบุว่า งาม้อนเป็นพืชชนิดเดียวที่มีโอเมก้า 3 ซึ่งในงาม้อน มีเปอร์เซ็นต์โอเมก้า 3 มากกว่าน้ำมันปลาจากปลาทะเลน้ำลึกหลายเท่า (ปลาแซลมอนอบขนาด 85.05 กรัม จะมีโอเมก้า 3 เพียง 2 กรัม คิดเป็นร้อยละ2.35 เท่านั้น
เครดิต : ผู้จัดการ Online
บทความที่เกี่ยวข้อง